อุเซน โบลต์ นักวิ่งฉายา “เจ้าสายฟ้าแลบ”
ยูเซน โบลต์ (อังกฤษ: Usain Bolt) เกิดวันที่ 21 สิงหาคม
ค.ศ. 1986 เป็นนักวิ่งชาวจาเมกา เจ้าของฉายา “เจ้าสายฟ้าแลบ” (The Lightning Bolt) เจ้าของสถิติโลกวิ่ง
100 เมตร ที่เวลา 9.69 วินาที (ความเร็วลม +0.0 เมตร/วินาที) และสถิติโลกวิ่ง 200
เมตร เวลา 19.30 วินาที (ความเร็วลม −0.9 เมตร/นาที ) ในการแข่งขันโอลิมปิกฤดูร้อน 2008
เขามีความสูง 196 เซนติเมตร น้ำหนัก 86 กิโลกร้ม (189
lbs)
ต่อมาเดือนสิงหาคม ค.ศ. 2009 ที่เมืองเบอร์ลินก็ทำลายสถิติโลกวิ่ง 100 เมตรอีกครั้ง ที่เวลา 9.58 วินาที ได้รับเหรียญทองในงานเวิลด์แชมเปียนชิป ถือเป็นการทำลายสถิติโลกที่มีระยะห่างมากที่สุดที่เคยมีมาหลังจากเริ่มใช้วิธีการจับเวลาระบบอิเล็กทรอนิกส์
เกิดในประเทศจาเมกาในปี 1986 อุเซน โบลต์ (Usain Bolt) เป็นนักวิ่งระยะสั้นที่ทำลายสถิติมาแล้วนับไม่ถ้วนตลอดอาชีพนักวิ่งของเขา เขาเริ่มวิ่งมาตั้งแต่ 10 ขวบ และมีความสนใจด้านกีฬามาตั้งแต่ตอนนั้น
ต่อมาเดือนสิงหาคม ค.ศ. 2009 ที่เมืองเบอร์ลินก็ทำลายสถิติโลกวิ่ง 100 เมตรอีกครั้ง ที่เวลา 9.58 วินาที ได้รับเหรียญทองในงานเวิลด์แชมเปียนชิป ถือเป็นการทำลายสถิติโลกที่มีระยะห่างมากที่สุดที่เคยมีมาหลังจากเริ่มใช้วิธีการจับเวลาระบบอิเล็กทรอนิกส์
เกิดในประเทศจาเมกาในปี 1986 อุเซน โบลต์ (Usain Bolt) เป็นนักวิ่งระยะสั้นที่ทำลายสถิติมาแล้วนับไม่ถ้วนตลอดอาชีพนักวิ่งของเขา เขาเริ่มวิ่งมาตั้งแต่ 10 ขวบ และมีความสนใจด้านกีฬามาตั้งแต่ตอนนั้น
“ผมเล่นฟุตบอลไม่ค่อยเก่งเท่าไหร่
ก็มีเล่นคริกเก็ตอยู่บ้าง แต่พ่อแม่เห็นผมวิ่งเลยส่งเสริมให้ผมจริงจังกับกีฬาลู่ลาน
(track and field) มากกว่า ผมเลยเอาดีทางนี้แทนที่จะไปเล่นคริกเก็ตครับ”
โบลต์เข้าร่วมการแข่งขันระดับโลกครั้งแรกเมื่ออายุ
15 ปี ในตอนนั้นร่างกายของเขาดูโดดเด่นเหนือนักกีฬาคนอื่น
เพราะด้วยอายุเพียง 15 ปี โบลต์ก็สูงถึง 6 ฟุต 5 นิ้ว (ประมาณ 198 เซนติเมตร)
แล้ว
โบลต์เก็บชัยชนะในการแข่งขันระดับเยาวชนมาเรื่อยๆ
อย่างไรก็ตามตลอดเส้นทางการเป็นนักวิ่ง เขาก็มีอาการบาดเจ็บเรื้อรังอยู่เนืองๆ นอกจากนี้
การใช้ชีวิตแบบสุดเหวี่ยงและการไม่ค่อยยอมฝึกซ้อมอย่างจริงจังทำให้บางคนมองว่าเขาเป็นนักกีฬาที่ขี้เกียจ
ถึงแม้เขาจะพึ่งพาพรสวรรค์ที่มีมาแต่เกิดเพื่อคว้าชัยชนะอยู่มาก
แต่ปี 2005 ทัศนคติของนักวิ่งคนนี้ก็เริ่มเปลี่ยนไป เขามุ่งมั่นที่จะลบคำสบประมาทต่างๆ
ที่ผู้วิพากษ์วิจารณ์เคยกล่าวเอาไว้
ในการแข่งขันโอลิมปิกฤดูร้อนเมื่อปี 2008 ณ กรุงปักกิ่ง โบลต์ได้ทำสถิติที่ดีที่สุดของเขาไว้
ทั้งในการแข่งขันวิ่งระยะสั้น 100 และ 200 เมตร สถิติการวิ่ง 100 เมตรใน 9.69 วินาทีของเขา เป็นการวิ่งที่เร็วที่สุดเท่าที่มีการบันทึกในการวิ่งประเภทนี้คาดกันว่า
เขาอาจทำเวลาได้ดีกว่านี้อีก หากเขาไม่ได้ผ่อนความเร็วลงในช่วงท้ายของการแข่งขัน ส่วนเหรียญทองที่
3 ของเขาในกรุงปักกิ่ง นั้นได้มาจากการแข่งขันวิ่ง 4 คูณ 100 เมตร
ตั้งแต่การทำสถิติของ คาร์ล ลูวิส ในโอลิมปิกปี
1984 อุเซน โบลต์ กลายมาเป็นนักกีฬาชายคนแรกหลังจากนั้นที่กวาดเหรียญทองในการแข่งขันวิ่งทั้ง
3 รายการ ในโอลิมปิกครั้งเดียวกัน และความสำเร็จในการแข่งขันโอลิมปิก
ทำให้เขาได้รับรางวัล Order of Distinction จากประเทศจาเมกา และได้รับเลือกเป็นนักกีฬาแห่งปีประจำปี
2008 จากการโหวตของสื่อมวลชนรอบโลก
เรามาดู 5 เหตุผลที่ทำให้เจ้าของฉายา “มนุษย์สายฟ้า” ผู้นี้วิ่งได้เร็วที่สุดในโลกกัน
1. มีพื้นฐานทางสรีระที่ดี ชาวผิวสีมีปัจจัยทางร่างกายหลายส่วนที่ส่งผลดีต่อการวิ่ง
ดังนี้
- มีตำแหน่งสะดือที่สูงกว่าคนทั่วไป 3 ซ.ม. มีผลต่อจุดศูนย์ถ่วงของร่างกาย ทำให้เคลื่อนที่ไปข้างหน้าได้เร็วขึ้น
- ช่วงขานั้นยาวกว่านักวิ่งทั่วไป 15% แต่มีน้ำหนักเบากว่า 12% ทำให้สับขาได้เร็วและก้าวขาได้ไกล เห็นได้ชัดจาก โบลต์ ที่มีความสูงถึง 6 ฟุต 5 นิ้ว(195 ซม.) สามารถวิ่งเข้าเส้นชัยในระยะ 100 เมตร ด้วยการวิ่งเพียง 41 ก้าว(2.4 เมตร/ก้าว) ในขณะที่นักวิ่งคนอื่นต้องวิ่งถึง 44 ก้าว (2.27 เมตร/ก้าว)
- มวลกระดูกมีความหนาแน่นมาก ส่งผลดีในการรองรับน้ำหนักขณะกระแทก ซึ่งขณะวิ่งกระดูกเท้าต้องรองรับน้ำหนักมากกว่า 5 เท่าของน้ำหนักตัว และยังมีกล้ามเนื้อที่แข็งแรงทนทาน
- มีเม็ดเลือดมากกว่าคนทั่วไป (คนทั่วไปมี 270 ล้านโมเลกุล) ร่างกายจึงสร้างอ็อกซิเจนมาใช้ได้มากขึ้น
2. รักษาสมดุลร่างกายได้อย่างดีเยี่ยม
โบลต์สามารถควบคุมท่าทางการเคลื่อนไหวได้ดีในทุกส่วนของร่างกาย มีความสัมพันธ์กันชนิดที่ไม่มีความผิดพลาดแม้แต่ก้าวเดียว
ซึ่งจำเป็นต้องอาศัยการเชื่อมต่อระหว่างสมองและกล้ามเนื้อทุกส่วนอย่างลงตัว
3. มีการฝึกฝนที่เข้มข้น โบลต์เก็บตัวฝึกซ้อมหนัก
6 เดือนก่อนการแข่งขัน ฝึกการออกตัว ทรงตัว วิ่งทางตรง-ทางโค้ง โดยมี “เกลน มิลส์” โค้ชคู่ใจเป็นผู้ดูแล
นอกจากนี้ยังเข้าฟิตเนสเสริมสร้างกล้ามเนื้ออยู่เสมอ โดยเข้าฟิตเนส 3 ครั้ง/สัปดาห์
แต่ละครั้งไม่ต่ำกว่า 2 ชั่วโมง โดยเน้นไปที่กล้ามเนื้อหน้าท้องและต้นขาหน้า-หลัง
4. โภชนาการช่วยในการให้พลังงาน โบลต์ฝึกซ้อมที่เมืองคิงส์ตัน
ประเทศจาไมก้า ที่นั่นมีพ่อครัวประจำแคมป์ เขาจึงได้รับประทานอาหารที่ดีมุกมื้อ โดยเน้นไปที่อาหารจำพวกคาร์โบรไฮเดรต
โดยเฉพาะ นักเก็ตไก่ ปลา มันเทศ ซึ่งหาง่ายในจาไมก้า แต่ถ้าต้องแข่งต่างประเทศและหาอาหารยาก
บ่อยครั้งก็จะลงเอยที่ เบอร์เกอร์คิงส์ หรือ แมคโนดัล
5. มีอารมณ์แจ่มใสไร้กังวล โบลต์มักจะใช้เวลาว่างหลังการฝึกอยู่กับเพื่อนๆ
และมีกิจกรรมผ่อนคลายคือการเล่นวิดีโอเกม ก่อนการแข่งขันก็จะตั้งสมาธิและทำตัวสบายๆ
เพราะถ้าเครียดมากเกินไปก็จะส่งผลต่อการเกร็งของกล้ามเนื้อ และต่อเนื่องไปยังผลการแข่งขันอีกด้วย
มาดูการฝึกซ้อมของนักวิ่งระดับโลกกันเถอะ!!
ข้อมูลจากเว็บ : ประวัติ ยูเซน โบลต์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น